MBA Gossip

  • ข้าวผัดหมู - *เครื่องปรุง* 1. ข้าวสวย ¾ ถ้วยตวง 2. หมูสับ 50 กรัม 3. หมูแฮมหั่นเป็นเส้นฝอย 3 แผ่น 4. หมูยอหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ 5. กระเทีย...
    7 ปีที่ผ่านมา
  • ปวดหลัง - * อาการปวดหลังร่วมกับแขนขาชาไม่มีแรง* กลั้นปัสสาวะและอุจจาระไม่ได้ ซึ่งลักษณะอาการดังกล่าวเป็นไปได้ว่าไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ ทางที่ดีควรรีบปรึก...
    7 ปีที่ผ่านมา
  • เพื่อนแพง - พุทธศักราช 2476 นาข้าวชูรวงทองเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่งบ้านสร้าง อำเภอหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี เสียงควบขี่ไอ้เปลี่ยว ควายคู่ใจของ ไอ้ลอ (ศุกลวัฒน์ คณารศ)...
    8 ปีที่ผ่านมา
Custom Search
วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Informal dependence

การเป็นผู้นำผู้บริหารองค์กรที่ไม่สามารถไปทำทุกเรื่องทุกอย่างในองค์กรด้วยตนเองได้ทั้งหมด เพราะองค์กรมีองค์ประกอบหลายส่วน หลายลักษณะ หลายขนาด หลายหน้าที่ ที่แตกต่างกัน แต่รวมกันทำหน้าที่ของมันเพื่อให้องค์กรขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายความสำเร็จ

"If you think you are the entire picture, you will never see the big picture." ถ้าคุณคิดว่าตัวคุณคือตัวภาพทั้งหมด คุณจะไม่มีวันมองเห็นภาพใหญ่ของภาพนั้น เป็นคำพูดของ John C. Maxwell ที่อธิบายให้ผู้นำผู้บริหารเข้าใจว่า เราไม่สามารถเป็นทุกอย่างในภาพใหญ่ได้ทั้งหมด เพราะภาพแต่ละภาพมีองค์ประกอบหลายส่วนที่มีรูปลักษณ์ ขนาด สีสันที่แตกต่างกันเข้ามารวมกันเป็นภาพใหญ่ ทำให้ภาพมีความลงตัว เกิดความสวยงาม หรือมีความน่าสนใจมากขึ้น 

กลองใบเดียว แม้มือกลองจะมีฝีมือในการตีกลองได้อย่างเชี่ยวชาญแต่ความไพเราะและความน่าสนใจของเสียงกลองที่เล่นอยู่คนเดียวไม่อาจสู้ความไพเราะของเสียงกลองที่เล่นพร้อมกับเครื่องดนตรีหลากหลายชนิดในวงดนตรี การเป็นผู้นำผู้บริหารคือการเป็นผู้นำการบรรเลงเพลงให้เสียงดนตรีที่ออกมาจากเครื่องดนตรีหลากชนิด หลายประเภท ต่างขนาดทั้งชิ้นใหญ่ชิ้นเล็กที่แตกต่างกันสามารถรวมกันเป็นเสียงเพลงบรรเลงที่ไพเราะและน่าสนใจยิ่ง

Robert L. Joss คณบดีของ STANFORD Graduate School of Business กล่าวว่าผู้นำผู้บริหารต้องรู้จักการพึ่งพาผู้อื่นอย่างไม่เป็นทางการ (Informal dependence) เป็นการอาศัยความช่วยเหลือจากบุคคลหลายๆคนที่ไม่มีตำแหน่งตามโครงสร้างการบริหารงานขององค์กร หรือเป็นการขอร้องไหว้วานให้ช่วยเหลือเป็นการส่วนตัว ซึ่งในหลายๆกรณีมีความสำคัญกว่า และมีอำนาจมากกว่า การอาศัยอำนาจตามตำแหน่งในโครงสร้างการบริหารองค์กรที่กำหนดให้งานของผู้นำผู้บริหารอยู่ในจุดสูงสุดขององค์กร

ความคิดหลัก (Key thoughts)

ความรับผิดชอบ ไม่ใช่อำนาจ (Responsibility not power)
ผู้นำผู้บริหารจำนวนมากเมื่อเข้าสู่ตำแหน่งมักคิดถึงอำนาจที่มากับตำแหน่งมากกว่าความรับผิดชอบที่มากับตำแหน่ง และมักใช้อำนาจที่มีคู่กับตำแหน่งไปในทางที่เกิดประโยชน์ต่อความสำเร็จของตนเองโดยขาดจิตสำนึกว่า การเป็นผู้นำหมายถึงการมีความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตนที่มีผลทำให้เกิดทั้งผลดีและผลเสียต่อองค์กรและบุคลากร ความสำเร็จหรือความล้มเหลวที่เกิดขึ้นจากการใช้อำนาจของตน ทั้งทางตรงหรือทางอ้อมที่มีผลกระทบต่อองค์กรและบุคลากรในองค์กร เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผู้นำผู้บริหาร

ยุทธศาสตร์และความชัดเจน (Strategy and Specifics)
มีคำกล่าวว่า "A group needs a strategy" กลุ่มจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ หมายถึงเมื่อมีคนมากกว่าหนึ่งคนมารวมตัวกันเป็นกลุ่ม ถ้าต้องการให้คนในกลุ่มทำงานอย่างได้ผลและมีประสิทธิภาพ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมียุทธศาสตร์ เพราะถ้าไม่มียุทธศาสตร์กำกับการทำงาน คนในกลุ่มจะทำงานตามความพอใจของตนเอง การทำงานย่อมไม่เกิดผล และไม่มีประสิทธิภาพ Michael Dell ผู้ก่อตั้งและเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัท Dell Inc. ที่ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์จำหน่ายทั่วโลกกล่าวว่า "You have to show that you know the way, even if you have no idea what to do." คุณต้องแสดงให้คนรู้ว่าคุณรู้จักทางที่จะไป แม้ว่าในขณะนั้นคุณยังไม่รู้ว่าคุณจะทำอะไร ผู้นำผู้บริหารจะต้องรู้ว่าตนเองกำลังจะนำองค์กรไปทางไหนก่อน แล้วถึงมากำหนดสิ่งที่ต้องทำเพื่อนำองค์กรให้เดินไปตามทิศทางนั้น Robert l. Joss ยกตัวอย่างเรื่องความชัดเจนในการบริหารคณะบริหารธุรกิจที่เขาเป็นคณบดีว่า ถ้าจะบอกว่าคณะบริหารธุรกิจของเราจะเป็นคณะที่ยิ่งใหญ่ ผู้ร่วมงานในคณะจะยังไม่รู้ชัดเจนว่าคณะของเราจะไปทางใด ยังไม่เกิด sense of direction ว่าคณะบริหารธุรกิจจะยิ่งใหญ่ได้อย่างไร เพราะเป็นคำพูดที่กว้างเกินไป แต่ถ้าเราพูดว่าคณะบริหารธุรกิจของเราจะใช้ยุทธศาสตร์ 3 Cs ใหม่ คือ a new Curriculum มีหลักสูตรการเรียนใหม่ a new Collaboration มีความร่วมมือใหม่ และ a new Campus มีวิทยาเขตใหม่ คนจะมองเห็นชัดเจนมากขึ้นว่ายุทธศาสตร์ 3Csใหม่จะนำให้คณะบริหารธุรกิจเป็นคณะที่ยิ่งใหญ่ได้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ฺBreakingnews